[SF]Rainy season JunDong
ในวันที่ฝนพร่า มันนำเรามาให้เจอกัน หยาดฝนกลับมาอีกครั้ง พร้อมกับหอบเอาความทรงจำเหล่านั้นกลับมาด้วย
ผู้เข้าชมรวม
738
ผู้เข้าชมเดือนนี้
6
ผู้เข้าชมรวม
Rainy Season
ร่มคันหนึ่งร่วงหล่นลงพื้น ท่ามกลางสายฝน ไม่ใช่พายุที่พัดมาอย่างแรงแต่มันคือความอ่อนล้าที่ถาโถมมาไม่หยุดหยั่ง
เจ้าของมันไม่ได้สนใจ ปล่อยร่มสีฟ้าใสนอนแนบพื้นปูนขาวเกลือกกลิ้งไปมา
ราวหยดน้ำที่กลิ้งตามใบบัว เสียงเม็ดฝนกระทบกับผืนผ้าร่มดังอยู่ข้างตัวไม่ขาดสาย ไม่ได้ช่วยดึงดูดความสนใจเลยแม้สักนิด
ลำขาเรียวรีบถอยร่นหลบเข้ามุมฉากข้างตึกปูนที่โชว์สีมนสไตล์ตึก
เป็นอีกครั้งที่ร่มคันเดิมร่วงล่นกลางสายฝน
นัยน์ตากลมสั่นไหว มีน้ำสีใสหล่อเลี้ยงเอ่อคลอ
จับจ้องแผ่นหลังหนากำยำที่เจ้าของมันโน้มตัวไปบดบังเม็ดฝนให้กับใครอีกคน
ราวกับหนังรักโรแมนติก
จูบกันท่ามกลางสายฝน!
ในวันที่ฝนพร่า มันนำเรามาให้เจอกัน
หยาดฝนกลับมาอีกครั้ง พร้อมกับหอบเอาความทรงจำเหล่านั้นกลับมาด้วย
และเมื่อฝนเริ่มหยุด ทุกอย่างก็จะจบลง
เช่นเดียวกับเขาที่ค่อยๆเดินจากไป
จางหายไปพร้อมๆกับสายฝน
สายฝนที่นำทางเรามา
และเป็นสายฝนที่นำพาให้เราจากกัน
.แม้ในช่วงเวลานั้นมันจะไม่ใช่หน้าที่หรือฤดูที่ฝนจะต้องมาปฏิบัติงาน
แต่สายฝนก็จะตกลงมาสร้างความทรมานหรือบรรยากาศดีๆ ให้เราเสมอ
เช่นเดียวกับความรักที่ชอบทำให้เราตกหลุมรักและอกหักได้ตลอด
ไม่เลือกหน้า
ไม่มีเวลา
ไม่บ่งบอกสถานที่
บางทีไม่ได้ต้องการ
แต่ก็ดันมาเป็นแขกรับเชิญ
"อื้อ" เสียงครางอื้ออึงในลำคอเมื่อไอเย็นสัมผัสโดนผิว
เจ้าของเสียงเพียงแค่พลิกตัวไปมา
มือบางควานหาผ้าผืนหนาที่ร่นตกลงมาเนินอกหยิบจับมันกลับขึ้นคุมอีกครั้ง
มีเพียงแค่ส่วนหัวเท่านั้นที่โผล่พ้นผ้านวมสีขาว
ซุกตัวอยู่ไม่ถึงนาทีเสียงนาฬิกาปลุกเจ้าเดิมก็ส่งเสียงประท้วง
ใช้มือทุบลงไปที่หัวเตียงอย่างแม่นยำเสียดังลั่น กะว่าจะทำให้มันพังสะ
จะได้ไม่ต้องมาดังรบกวนการนอน
เจ้าของเตียงนุ่มกลับไปอยู่ใต้ผ้านวมแต่เหมือนจะคิดอะไรขึ้นได้
รีบคว้าหยิบนาฬิกาที่แผดเสียงเมื่อครู่ กระพริบตาครั้งสองครั้งเพื่อปรับแสง
มองดูเข็มยาวที่หน้าปัดบอกเวลา
ร่างบางใช้ศอกพยุงตัวขึ้นชิดขอบเตียงบิดเอียงตัวซ้ายขวาไล่ความขบเหมื่อยตามร่างกาย
บิดซ้ายบิดขวาอีกครั้งก่อนสายตาจะไปหยุดที่กระจกใส หยดน้ำเกาะพราวกับขอบหน้าต่าง
นี้คงจะเข้าหน้าฝนแล้วสินะ ใครก็ว่าไม่มีหน้าไหนจะเหงาเท่าหน้าฝนแล้ว จริงมั้ย
รึหน้าหนาวจะเหงากว่าฝน หรือที่จริงมันก็เหงาทุกฤดู
เฮ้อออ !! พ่นลมหายใจเข้าออกเล็กน้อยก่อนจะถอนหายใจเสียเฮือกใหญ่
ยกมือขยี้หัวก่อนจะพาร่างกายตัวเองไปยืนหน้าตู้เสื้อผ้า
ไม่ได้หันกลับไปสนใจจะจัดแจงที่นอนให้เข้าที่
พลางหยิบผ้าเช็ดตัวพาดบ่าเดินเข้าห้องน้ำ
เพียงไม่กี่นาทีเขาก็พาตัวเองมาหยุดอยู่หน้าคาเฟ่แล้ว
งานกะบ่ายในช่วงฝนตก เป็นอะไรที่น่าเบื่อ และทรมานที่สุด
อากาศดีๆใครมันจะอยากลุกขึ้นมาทำงาน
มองผ่านเข้าไปในกระจกใสอยู่นาน
พ่นลมหายใจออกมาพลางมือบางสะบัดร่มไล่หยาดน้ำออกจากร่มเล็กน้อย
หวังไม่ให้มันหยดเปื้อนพื้นก่อนจะผลักเข้าไปข้างในร้าน
กรุ๊งกริ๊ง!~~
"เรโทรคาเฟ่ ยินดีให้บริการครับ"
เสียงตอบรับอัตโนมัติดังขึ้นทุกครั้ง
เมื่อเสียงกระดิ่งหน้าร้านส่งเสียงกระทบกัน
"เอ้า
พ่อหนุ่มน้อยมาช้านะวันนี้"เสียงทักจากบริกรของร้านที่ใส่เอี๊ยมกันเปื้อนสีขาวส่งเสียงทักเมื่อผละจากการเสิร์ฟกาแฟให้ลูกค้าเสร็จสิ้น
เขาเพียงส่งยิ้มทักทายกลับ วางร่มลงกับที่เก็บร่มหน้าร้าน
เดินเข้าไปทางประตูเคาท์เตอร์เลี้ยวซ้ายเข้าห้องล็อคเกอร์
เก็บของใช้ส่วนตัวเข้าก่อนหยิบเอี๊ยมที่เป็นเหมือนเครื่องแบบประจำตำแหน่งออกมาสวมทับ
จัดชายเสื้อเซิ้ตที่หลุดออกมาเข้าไปเล็กน้อยพอไม่ให้ดูรุงรัง ก่อนจะเดินกลับออกมาประจำเคาท์เตอร์
"วันนี้ลูกค้าเยอะหน่อยนะ ใครก็พากันหลบฝนเข้าร้านกาแฟทั้งนั้น
อากาศแบบนี้จิบอะไรอุ่นๆรองท้องสบายตัวดี"
รุ่นพี่ประจำเคาท์เตอร์เอ่ยทักเมื่อเขาเดินไปหยิบจับออเดอร์ที่พี่อีกคนเอามาทิ้งไว้เมื่อครู่
"แพนเค้ก 1โกโก้ร้อน 1 เอสเปรโซ่ร้อน 1 โต๊ะหกครับ" เค้าทวนออเดอร์
รุ่นพี่พลางพยักหน้าก่อนจะเตรียมของตามรายการ
วันนี้ลูกค้าก็เยอะกว่าปกติจริงๆนั้นแหละ
มองไปทิศไหนของร้านก็มีคนนั่งกระจายตัวอยู่
พนักงานกะละสามคนกับร้านไม่ใหญ่ไม่เล็กแบบนี้ ก็พอจะรับมือไหว
"สายนะดงฮยอก"เสียงทักทายของเจ้าของกิจการที่เดินตรงดิ่งมาเคาท์เตอร์เปิดประตู้มุดตู้
รื้อเพียงเล็กน้อยหอบเอาสมุดสองสามเล่มไปถือก่อนจะหันหน้าพยักเพยินนิดหน่อยกับรุ่นพี่
ยืนนิ่งอยู่สักพักเมื่อเห็นโต๊ะว่างแล้วจึงหอบหิ้วของไปโต๊ะตัวใกล้ๆ
ที่นี้ไม่มีห้องทำงานรึโต๊ะทำงานให้เจ้าของเคลียร์สมุดบัญชีอะไรหรอก
ใช้โต๊ะในร้านเป็นโต๊ะทำงานเสียส่วนใหญ่
พอเปิดหน้าสมุดเตรียมตรวจเช็คกาแฟหอมกลิ่นโปรดก็วางหน้าผู้เป็นนายเรียบร้อยตามคำสั่ง
"ดงฮยอกอ่า เอาขยะไปทิ้งหลังร้านด้วยนะ"
เมื่อได้ยินคำสั่งจากผู้บังคับบัญชา
เขาก็ต้องวางผ้าที่พึ่งจะหยิบขึ้นมาลง เงยหน้ามองส่งยิ้มตาหยีอย่างหมั่นไส้ไปให้หนึ่งที
ก็พึ่งจะยกกาแฟไปเสิร์ฟที่โต๊ะสิบสองแล้วกับมาเช็ดเคาท์เตอร์ คุณชายใหญ่ท่านก็สั่งให้เอาขยะไปทิ้งเสียแล้ว
"นี้กะจะใช้ให้คุ้มค่าเงินทุกวอนเลยรึไงครับ
ผมทำพาร์ทไทม์นะฮยอง"
"ฉันก็เห็นนายอยู่เกินเวลางานตลอด อยู่นานกว่าพนักงานเต็มเวลาเสียอีก"
"พวกผมไม่ได้ขี้เกียจนะเฮีย น้องมันขยันเกินไป
เอ๊ะ
รึนายไม่มีที่ไปกันแน่"รุ่นพี่ประจำเคาท์เตอร์หันมารับออเดอร์ตอบเจ้านายอย่างดัง
เพื่อรักษาสิทธิ์อันพึ่งมีของตน
กลัวเสียว่าเฮียเจ้าของร้านผู้ใจดีจะอยากนึกคึกหักค่าแรงทั้งที่ไม่เคยทำสักที
มีดีก็แค่ขู่เท่านั้น ก่อนจะแวะมากัดคนที่ทำงานล่วงเวลาเสมอ
แต่ไม่แปลกหรอกน้องเป็นคนขยันและมันอาจจะจี้ใจดำไปนิด
แต่นั้นคือความเป็นจริง
คือน้องมันไม่รู้จะไปไหนนอกเสียจากร้านกับมหาวิทยาลัยเพียงแค่นั้น
"ป่าวนะฮยอง ผมเอาขยะไปทิ้งละครับ"
เขาเพียงแต่ยิ้มส่ง
ส่ายหัวน้อยๆไปให้คนตัวเล็กที่พึ่งเปิดประตูออกไปหลังร้านตามคำสั่ง
ถึงจะบ่นแต่ก็ไม่เคยปฏิเสธคำขอร้องเลยสักครั้ง หมอนี้มันก็ใจอ่อนแบบนี้ตลอด
เดินออกมาหลังร้านตามคำสั่ง
หันไปหยิบจับถุงดำที่คัดแยกเสร็จสรรพมาถือไว้
ใช้หลังมือเปิดประตูอย่างคล่องแคล่วเดินลัดเลาะตามชายคาตึกที่ยื่นออกมาเพียงนิดเพื่อไปยังจุดหมายหย่อนถุงดำทั้งหลายลงไปแล้วรีบวิ่งกับไปยังประตู
หวังให้ตัวเปียกน้อยที่สุด ก่อนจะหยุดยืนหน้าประตูถูมือไปมา
อากาศหนาวๆชื้นๆแบบนี้ ชวนให้นึกถึงบางอย่าง เพียงแค่คิดมือเล็กล้วงลงข้างกระเป๋าเอี้ยมหาสิ่งที่คิดว่ายังหลงเหลือติดอยู่
เมื่อเจอสิ่งที่หาก็จับให้ริมฝีปากล่างกับบนประกบไว้
แชะ! ! สิ้นเสียงไฟสีแดงประกายส้มก็ติดอยู่บนปลายแล้ว
เผลอเอาเก็บเข้าปอดเฮือกใหญ่เต็มๆ
ก่อนจะพ่นออกมาทิ้งหลังเอนชิดกำแพงพลางมองออกไปดูสายฝนที่ยังคงรินพร่าลงมาไม่ขาดสาย
ยกมวนสีขาวพร้อมควันหม่นผวยพุ่งขึ้นมา หวังจะเอาเข้าปอดอีกครั้ง แต่พอแตะลงที่ริมฝีปากเพียงนิดก็ลดระดับมือลงซะอย่างนั้น
ให้นิ้วชี้กับนิ้วกลางห่างจากกันแค่ครู่ มวนสีขาวก็กระทบพื้น
วางเท้าขวาลงไปไม่ต้องลงน้ำหนักเท้าให้เสียแรงเปล่า สีแดงประกายส้มปลายมวนก็จางหายไป
"นิสัยเสียเหมือนเดิมนะ”
“............”
“แอบอู้รึไง"
สายตาที่ก้มต่ำตวัดขึ้นไปตามเสียงทุ้มต่ำทันที นัยน์ตาเรียวรีเบิกกว้างด้วยความตกใจ
ดวงตาใสสั่นไหวเพียงนิดก่อนจะกลับมาเป็นปกติ เมื่อเผลอสบดวงตาเหยี่ยว
"มา.... ได้ยังไง"
"ก็นี้มันร้านพี่ฉัน"
ก็ใช่นี่เนอะ มันร้านพี่ชายเขา จะเดินเข้าเดินออกรึมาตอนไหนก็ได้
ไม่เห็นจะแปลกเลย
แทนที่เจ้าตัวคนพูดจะเดินเข้าร้านไปเสีย
ไม่ต้องมามั่วเสวนากับลูกจ้างให้ตัวเองต้องพลอยเปียกฝนให้เสี่ยงต่อสุขภาพ แต่กับดันอีกคนให้ชิดกำแพง
ใช้ลำแขนแกร่งกักตัวอีกคนไว้
โน้มตัวไปหาไม่รอช้าหรือพูดพร่ำให้เสียเวลาฉกฉวยริมฝีปากบางไว้ในครอบครอง
กดมันย้ำเบาเบา ก่อนจะผละสายตาขึ้นไปมองเจ้าของ แววตาสั่นไหวเบิกกว้าง
แขนสองข้างแนบลำตัว ลักษณะที่คนตัวเล็กกว่าแสดงออกมา
ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าตกใจ
เจ้าของริมฝีปากหนาไม่รอให้อีกคนดึงสติกลับมา กับไปดูดชิมสำรวจความหวานในโพรงปากของอีกคน
แม้ตอนแรกจะขัดขืนแต่อีกคนจะบังคับและเอาแต่ใจ แต่ก็ยอมเปิดริมฝีปากให้อีกคนได้ดูดชิมสมใจ
ทั้งขบเม้มดูดดุ้น ราวกับโหยหา
ไม่รู้ว่านานแค่ไหนรู้ตัวอีกที มืออีกคนก็ขึ้นไปโอบรอบคอของอีกคน เหมือนได้สติเมื่อผละออกจากกันอย่างอ่อยอิ่ง
แต่ยังมิวายกดย้ำๆจนพอใจแล้วถึงถอยออกมา คนตัวเล็กรีบเมินหน้าไปอีกทาง
ก็มันไม่รู้จะทำอะไร ตอนนี้สมองมันขาวโล่งไปหมด ไม่รู้จะเอามือไปวางไว้ที่ไหน เลยเอามาลูบๆ แถวคางไปมา
เข้าเรียกมันว่าแก้เขินรึป่าว?
“คิดถึง”
ยังไม่ทันทีคนตัวเล็กกว่าจะผ่อนอาการร้อนหน้า
คนตัวสูงกว่าก็เล่นให้อีกคนมีสีหน้าแดงกล่ำ
“หายโกรธนะ”
“นี้ง้อแล้ว”
“จะให้ง้ออีกรอบมั้ยละ”
“มะ มะไม่”
“ถ้าหายแล้วก็เข้าไปข้างในกัน ยืนบังฝนให้เปียกหมดแล้ว”
“ถ้าไม่สบายเฝ้าไข้แล้วป้อนยาแบบเมื่อกิด้วย”
ก็ถ้ารู้ว่าง้อแบบนี้จะได้ผล คงจะไม่เสียเวลาหลบหน้าให้ทรมานหลายวันแบบนี้หรอก
“ไงไอ้จุนเน่ อ้าว
ยอมคุยกันแล้วหรอ”เจ้าของร้านเอ่ยทักเมื่อเห็นน้องชายที่คลานตามกันมา มาโผล่หัว
โชว์ตัวให้เห็น แต่พอเหลือบไปมองด้านหลังแล้วเห็นลูกน้องอีกคนที่ถูกมือใหญ่จับจูงเข้ามาก็อดเอ่ยปากแซวเสียมิได้
“เห็นมาเยี่ยมพี่รอบก่อนไม่เห็นจะมองหน้ากันด้วยซ้ำ”
“ก็ไม่ได้คุยไงเฮีย”
“กะว่ามารอบนี้จะคุยให้รู้เรื่อง”
“ง้อกันดีๆหล่ะ ไม่ใช่ว่าไปยืนทะเลาะกันกลางสายฝนอีก”
“ก็ไม่อะไรหรอก ถ้าอีกคนไม่เข้าใจผิดแล้วหนีกลับบ้านไม่ยอมพูดจา กลับมาก็ทำเมินแบบนี้” พอแค่ค้อยคนเป็นพี่ไปมือเล็กที่ว่างอยู่อีกข้างก็ฟาดไปตรงไหล่อีกคน
ไม่ได้เบาหรือหยั่งแรงสักนิด
“แล้วนี้เปลี่ยนชุดจะพากันกลับแล้ว?”
“แล้วเฮียยุ่งไรวะ”
“กูพี่มึงนะเว้ย แม่งโบกเลยหนิ”ไม่ได้คิดจะทำหรือเกลียดขี้หน้าน้องอะไรขนาดนั้น แค่ขว้างซ้อนคนกาแฟใส่แค่นั้นแหละ
มันยังมีหน้ามีตีคิ้วใส่
คนตัวสูงเลิกสนใจต่อล้อต่อเถียงกับพี่ชายแล้วจูงมืออีกคนให้ไปนั่งที่เก้าอี้
“บางทีที่ไม่พูดไม่ได้แปลว่าไม่แคร์”
“บางทีไม่ได้ใส่ใจไม่ใช่ไม่ดูแล”
“แล้วที่หายไม่ได้แปลว่าหมดรัก”
“ก็แค่ไม่รู้ว่าจะง้อ หรืออธิบายแบบไหน”
“……….” ทิ้งช่วงเงียบไปเมื่อคนตัวเล็กอย่างคิมดงฮยอกก้มหน้าแล้วก็เอาแต่เม้มปาก
“แต่วันนั้นรีบจะออกมาตามใครบางคน แล้วดันชนคนอื่นเข้า แค่จะช่วยเขาหยิบร่มแล้วพาเข้าไปหลบฝน
แต่ไม่รู้ว่าคนแถวนี้จะเข้าใจผิดคิดเป็นเรื่องไปได้”
คนตัวเล็กที่นั่งฟังเริ่มเบะปากคว่ำ ก่อนจะอมลมไว้ในปาก
คนที่มองอยู่ยกมือมาบีบแก้มสองข้างอย่างมั่นเขี้ยว
“ก็แล้วทำไมไม่รีบบอก”ใบหน้าเล็กหันมามองคนที่นั่งฝั่งตรงข้าม
น้ำเสียงเง้างอน
“ก็พอเห็นหน้าแล้วสนใจจะคุยปะหละ”
“ก็….”
“ไม่ต้องก็ ตัวเองเอาแต่ทำงานกับเรียน
ไปหาที่ห้องก็ไม่ยอมให้เข้า”
“ง้อแงหัวฟัดหัวเหวี่ยง พอจะพูดหน่อยก็เอาแต่จะร้องไห้”
“ให้ทำไงครับ หืออ”กูจุนเฮวได้แต่ยื่นมือไปขยี้ผมอีกคน
เมื่อคิดถึงสาเหตุที่ทำให้เรื่องมันไม่อมครึ้มแบบนี้
“ก็กลัวว่าจะโดนบอกเลิกอะ ก็ทำไมต้องทะเลาะเรื่องนั้นเล่า”ยังไม่วายส่งค้อนใบโตมาให้
“แล้วใครอนุญาตให้ผู้ชายอื่นมาส่ง”
“.......”
“เพื่อนหรือหมาตัวผู้ก็ไม่ให้ใกล้ ชะนีก็ไม่ คนมันหึงเข้าใจปะวะ”
“แล้วจะให้กลับเข้าไปอยู่ได้วันไหน วันนี้เลยมั้ย”
“ไม่รู้”
“แต่เค้าไม่อยากนอนบ้านเฮียนะ
อยากนอนกอดแฟน”
“เนี่ยฝนตก เหงาก็เหงาหนาวก็หนาวได้กอดแฟนคงจะหลับสบาย”
“เรื่อง ไม่คุยด้วยแล้ว”หันมายิ้มๆแลบลิ้นใส่อีกคนก่อนจะลุกออกจากโต๊ะไป
สองเท้ารีบก้าวออกมา ทั้งที่ฝนยังพร่ำไม่รู้ว่าสีหน้าตอนนี้มันบ่งบอกอะไร
เพียงรู้สึกถึงไอร้อนที่ลามไปทั่วเท่านั้น
แต่ต้องรีบหยุดเมื่อมีมือใครจับไหล่ให้หันกลับไปหา
"จะกลับทั้งที่ไม่มีร่มเนี่ยนะ เดี๋ยวก็เปียกไม่สบายกันพอดี"
มือหนากลางร่มขนาดกลางแล้วจับยัดใส่มือ ก่อนจะยกแขนที่จับร่มให้มาบังตัว
ดันหลังเพียงเล็กน้อยเป็นเชิงบอกให้เดินไปได้แล้ว
เสียงกระดิ่งหน้าร้านหยุดดังไปแล้วหลายนาที
มือขวากระชับจับคันร่มนั้นแน่นขึ้นอย่างลืมตัว ราวกับกลัวมันจะหล่นหาย
กรุ๊งกริ๊ง !~
เสียงกระดิ่งหน้าร้านดังขึ้นอีกครั้งหลังจากลูกค้าเปิดเข้าไปในร้านพลางเรียกสติให้ผมกับมาอยู่นะจุดเดิม
สายฝนเริ่มหยุดพร่าลงแล้ว ผมก็ควรจะออกเดินได้แล้ว ไม่ต้องกลัวเปียกอีกแล้ว
เพราะผมมีร่มอยู่ในมือ ร่มสีฟ้าใสที่เคยทำร่วงหล่นไปเมื่ออาทิตย์ก่อนพร้อมกับใครอีกคนที่ก้าวเดินไปพร้อมกัน
เราติดสอบแล้วช่วงนี้พารานอยด์นิดหน่อย
เอาSF มาให้อ่านแก้ขัดกันไปก่อน
อารมณ์มันอาจจะครึ่งๆกลาง
แปลกไปนิด เพราะทิ้งช่วงเขียนอารมณ์เลยไม่ค่อยต่อกัน
ขอบคุณที่หลงเข้ามาอ่านเน้อ
วอมเฟียเจ้าเก่าเจ้าเดิมบทบรรยายเวอเวิ้งเวิ่นเว่อร์
^^
WolFFia
เนื้อเรื่อง
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ผลงานอื่นๆ ของ สลิน / ปลาสีฟ้า ดูทั้งหมด
ผลงานอื่นๆ ของ สลิน / ปลาสีฟ้า
ความคิดเห็น